Skip to content Skip to footer

วิธีวัดระดับความสามารถภาษาอังกฤษ: คู่มือสู่การทดสอบระดับภาษา

วิธีวัดระดับความสามารถภาษาอังกฤษ: คู่มือสู่การทดสอบระดับภาษา

การวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเพื่อการศึกษา การทำงาน หรือการสื่อสารในชีวิตประจำวัน การวัดระดับช่วยให้คุณทราบว่าตัวเองอยู่ในระดับไหน และควรปรับปรุงทักษะในด้านใดบ้าง บทความนี้จะเป็นคู่มือที่จะพาคุณไปรู้จักกับวิธีการวัดระดับความสามารถภาษาอังกฤษผ่านการทดสอบต่าง ๆ เพื่อให้คุณสามารถเตรียมตัวได้อย่างมั่นใจ

1. มาตรฐานการวัดระดับภาษาอังกฤษที่ใช้ทั่วไป

ก่อนที่เราจะลงรายละเอียดเกี่ยวกับการทดสอบ ควรทำความเข้าใจกับมาตรฐานการวัดระดับภาษาอังกฤษที่นิยมใช้กันทั่วโลก ซึ่งมีหลายระบบ แต่ที่รู้จักกันมากที่สุดคือ:

  • CEFR (Common European Framework of Reference for Languages)
    ระบบ CEFR เป็นมาตรฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในยุโรปและทั่วโลก แบ่งระดับภาษาอังกฤษออกเป็น 6 ระดับหลัก ได้แก่:

    • A1 (Beginner)
    • A2 (Elementary)
    • B1 (Intermediate)
    • B2 (Upper Intermediate)
    • C1 (Advanced)
    • C2 (Proficiency)
  • IELTS (International English Language Testing System)
    การทดสอบนี้ได้รับการยอมรับในระดับสากลสำหรับการศึกษาและการทำงาน แบ่งคะแนนจาก 0-9 โดยแต่ละคะแนนจะแสดงถึงระดับความสามารถที่แตกต่างกัน เช่น คะแนน 5.5-6.5 หมายถึงระดับ B2 (Upper Intermediate) ในระบบ CEFR

  • TOEFL (Test of English as a Foreign Language)
    TOEFL เป็นการทดสอบที่นิยมใช้ในสถาบันการศึกษาทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา การให้คะแนนจะอยู่ระหว่าง 0-120 คะแนน โดยคะแนนสูงหมายถึงระดับที่สูงกว่า

2. ทักษะที่ทดสอบในแต่ละระดับ

การทดสอบระดับภาษาอังกฤษจะครอบคลุม 4 ทักษะหลัก ซึ่งแต่ละทักษะจะมีการทดสอบที่แตกต่างกัน:

  • การฟัง (Listening): การวัดความเข้าใจในการฟังภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นบทสนทนา รายการข่าว หรือการบรรยาย
  • การพูด (Speaking): การวัดความสามารถในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ การตอบคำถาม การสนทนา และการนำเสนอต่าง ๆ
  • การอ่าน (Reading): การวัดความเข้าใจในการอ่านบทความ ข่าวสาร หรือข้อความในบริบทที่หลากหลาย
  • การเขียน (Writing): การวัดความสามารถในการเขียนภาษาอังกฤษ เช่น การเขียนอีเมล เรียงความ หรือตอบคำถามในรูปแบบข้อเขียน

3. วิธีการเลือกการทดสอบที่เหมาะสม

การเลือกการทดสอบที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของคุณ เช่น:

  • เพื่อศึกษาต่อ: หากคุณต้องการศึกษาต่อในต่างประเทศ มหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาจะกำหนดประเภทการทดสอบที่ต้องการ เช่น IELTS หรือ TOEFL คุณควรตรวจสอบข้อกำหนดของสถาบันที่คุณต้องการสมัครเรียน
  • เพื่อทำงานในต่างประเทศ: หากคุณต้องการสมัครงานในบริษัทต่างชาติ หลายองค์กรจะขอดูผลสอบ IELTS หรือ TOEIC ดังนั้นควรเลือกการทดสอบที่ตรงกับความต้องการของนายจ้าง
  • เพื่อประเมินตนเอง: หากคุณต้องการวัดระดับความสามารถของตนเองเพื่อพัฒนาทักษะ คุณสามารถเลือกทดสอบในระบบ CEFR ซึ่งมีแบบทดสอบออนไลน์มากมายที่สามารถทำได้ฟรี

4. ตัวอย่างการทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ

มีการทดสอบหลายประเภทที่คุณสามารถเลือกได้ตามเป้าหมายของคุณ เช่น:

  • IELTS (International English Language Testing System): การทดสอบนี้แบ่งเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ IELTS Academic สำหรับการศึกษา และ IELTS General Training สำหรับการทำงาน คะแนนจะถูกแบ่งออกเป็นระดับตั้งแต่ 1 ถึง 9
  • TOEFL (Test of English as a Foreign Language): การทดสอบ TOEFL ส่วนใหญ่ใช้เพื่อศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาต่างประเทศ โดยมีรูปแบบทดสอบที่เน้นทักษะการอ่าน ฟัง พูด และเขียน
  • TOEIC (Test of English for International Communication): เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ภาษาอังกฤษในบริบทของการทำงาน การทดสอบนี้จะเน้นที่การสื่อสารในชีวิตประจำวันและการทำงาน

5. การเตรียมตัวสำหรับการทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ

การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้คุณทำคะแนนได้ตามเป้าหมาย นี่คือเคล็ดลับในการเตรียมตัว:

  • ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ: การฝึกฝนทักษะทั้ง 4 ด้านเป็นสิ่งสำคัญ คุณสามารถใช้แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่มีแบบฝึกหัดเพื่อทดสอบความเข้าใจ เช่น Duolingo หรือ BBC Learning English
  • ทำแบบทดสอบจำลอง: การทำแบบทดสอบจำลองจะช่วยให้คุณคุ้นเคยกับรูปแบบการทดสอบและช่วยลดความตื่นเต้นในวันสอบจริง
  • ใช้สื่อภาษาอังกฤษ: ฟังพอดแคสต์ อ่านบทความ ดูภาพยนตร์ หรือซีรีส์ภาษาอังกฤษเพื่อเสริมสร้างทักษะการฟังและการอ่าน
  • ทบทวนคำศัพท์และไวยากรณ์: ทบทวนคำศัพท์และโครงสร้างไวยากรณ์เป็นประจำจะช่วยให้คุณสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพในการทดสอบ

6. การประเมินผลและการวางแผนพัฒนาทักษะ

หลังจากที่คุณทราบระดับความสามารถภาษาอังกฤษของคุณแล้ว คุณสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการวางแผนพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในอนาคต เช่น:

  • หากคุณมีปัญหาในด้านการฟัง คุณอาจต้องฝึกฟังภาษาอังกฤษจากสื่อที่หลากหลายเพื่อเพิ่มความสามารถ
  • หากการเขียนเป็นทักษะที่คุณยังต้องพัฒนา คุณอาจต้องทำแบบฝึกหัดการเขียนมากขึ้น หรือเขียนบทความสั้น ๆ ทุกวัน

บทสรุป

การวัดระดับความสามารถภาษาอังกฤษเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาทักษะภาษา การเลือกการทดสอบที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณเข้าใจว่าคุณอยู่ในระดับไหน และควรพัฒนาในด้านใดต่อไป เพื่อให้คุณสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการศึกษา การทำงาน หรือการสื่อสารในชีวิตประจำวัน

0