Skip to content Skip to footer

การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่ได้รับความนิยม: ข้อดีและข้อเสียของแต่ละแบบ

 

การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่ได้รับความนิยม: ข้อดีและข้อเสียของแต่ละแบบ

การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษเป็นเครื่องมือสำคัญในการประเมินความสามารถทางภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ทักษะนี้ในการศึกษา การทำงาน หรือย้ายถิ่นฐานไปต่างประเทศ ปัจจุบันมีหลายประเภทของการสอบที่ได้รับความนิยม แต่ละประเภทมีวัตถุประสงค์และการใช้งานที่แตกต่างกัน บทความนี้จะพูดถึง ข้อดีและข้อเสียของการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษยอดนิยม ที่ผู้เรียนมักเลือกใช้

1. TOEIC (Test of English for International Communication)

TOEIC เป็นการสอบที่เน้นการวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในบริบททางธุรกิจ

ข้อดี:

  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ภาษาอังกฤษในการทำงาน เช่น การสื่อสารทางธุรกิจ การพูดคุยกับลูกค้าต่างประเทศ และการเขียนอีเมล
  • การสอบเน้นไปที่การฟังและการอ่าน ซึ่งง่ายต่อการเตรียมตัวสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดทักษะการพูดหรือการเขียน
  • ผลสอบ TOEIC เป็นที่ยอมรับในหลายบริษัททั่วโลก โดยเฉพาะในแถบเอเชีย

ข้อเสีย:

  • การสอบไม่ครอบคลุมทักษะการพูดและการเขียนในหลายๆ รูปแบบ ผู้สอบอาจไม่สามารถแสดงทักษะเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่
  • คะแนน TOEIC ใช้ได้เฉพาะในบริบทของการทำงาน ซึ่งอาจไม่เพียงพอสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในต่างประเทศ

2. IELTS (International English Language Testing System)

IELTS เป็นการสอบที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อหรือย้ายถิ่นฐานไปต่างประเทศ การสอบแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ IELTS Academic สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อ และ IELTS General Training สำหรับผู้ที่ต้องการย้ายถิ่นฐานหรือต้องการใช้ในชีวิตประจำวัน

ข้อดี:

  • ครอบคลุมทั้ง 4 ทักษะ: การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ทำให้การสอบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวัดทักษะภาษาอังกฤษอย่างครบถ้วน
  • ผลสอบ IELTS เป็นที่ยอมรับทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก เช่น สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และแคนาดา
  • IELTS Academic เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย เนื่องจากเนื้อหาที่ใช้ในการสอบมีความเชื่อมโยงกับการศึกษาเชิงวิชาการ

ข้อเสีย:

  • การสอบต้องการการเตรียมตัวในทุกทักษะ ซึ่งอาจใช้เวลามากกว่าการสอบอื่นๆ โดยเฉพาะทักษะการเขียนที่มีความซับซ้อน
  • ค่าสอบ IELTS สูงกว่าการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษบางประเภท

3. TOEFL (Test of English as a Foreign Language)

TOEFL เป็นการสอบที่เน้นการวัดทักษะภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยต่างประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา

ข้อดี:

  • เป็นการสอบที่ครอบคลุมทั้ง 4 ทักษะ: การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย
  • เนื้อหาการสอบมีความเข้มข้นและเชื่อมโยงกับการเรียนในระดับอุดมศึกษา ทำให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะที่จำเป็นสำหรับการเรียนในต่างประเทศ
  • ผลสอบ TOEFL เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในมหาวิทยาลัยสหรัฐอเมริกา

ข้อเสีย:

  • การสอบใช้เวลานานถึง 4 ชั่วโมง ซึ่งอาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับผู้สอบที่ไม่เคยสอบในเวลานาน
  • การสอบเน้นทักษะเชิงวิชาการ อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ภาษาอังกฤษในบริบททั่วไปหรือการทำงาน

4. CEFR (Common European Framework of Reference for Languages)

CEFR เป็นมาตรฐานที่ใช้วัดระดับความสามารถทางภาษาต่างๆ รวมถึงภาษาอังกฤษ โดยแบ่งออกเป็น 6 ระดับ ได้แก่ A1 (ระดับเริ่มต้น) ถึง C2 (ระดับเชี่ยวชาญ)

ข้อดี:

  • เป็นมาตรฐานที่ใช้อย่างแพร่หลายในยุโรปและประเทศอื่นๆ โดยครอบคลุมทั้ง 4 ทักษะและสามารถใช้วัดความสามารถทางภาษาได้อย่างละเอียด
  • เหมาะสำหรับการวัดระดับภาษาอังกฤษในทุกบริบท ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน หรือการใช้ชีวิตประจำวัน
  • มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน สามารถประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ได้ง่าย

ข้อเสีย:

  • CEFR เองไม่ได้เป็นการสอบ แต่เป็นมาตรฐานที่ใช้ในการอ้างอิง ผู้เรียนจะต้องหาการสอบที่เชื่อมโยงกับมาตรฐานนี้ เช่น การสอบ Cambridge English
  • การสอบบางประเภทที่ใช้มาตรฐาน CEFR อาจไม่มีความเข้มข้นในบางทักษะ เช่น การพูดหรือการฟัง

5. Cambridge English Exams

Cambridge English เป็นการสอบที่มีหลายระดับตั้งแต่ A2 Key ไปจนถึง C2 Proficiency และใช้มาตรฐาน CEFR ในการวัดระดับทักษะภาษาอังกฤษ ผู้สอบสามารถเลือกสอบตามระดับความสามารถของตนเอง

ข้อดี:

  • การสอบครอบคลุมทุกระดับความสามารถตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงระดับเชี่ยวชาญ ทำให้ผู้เรียนสามารถวัดทักษะได้ตามระดับที่เหมาะสมกับตนเอง
  • ผลสอบ Cambridge English เป็นที่ยอมรับทั่วโลก และไม่มีวันหมดอายุ

ข้อเสีย:

  • การเตรียมตัวสอบในระดับที่สูงอาจใช้เวลานานและต้องฝึกฝนทุกทักษะ
  • ค่าสอบอาจสูงกว่าการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษอื่นๆ

บทสรุป

การเลือกสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่เหมาะสมกับเป้าหมายของคุณเป็นสิ่งสำคัญ การสอบแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ผู้เรียนควรพิจารณาจากความต้องการในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาต่อ การทำงาน หรือการย้ายถิ่นฐาน การเตรียมตัวที่ดีและการเลือกการสอบที่ตรงกับความต้องการจะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จได้อย่างมาก

0