แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ อาจมีระดับความยากง่ายแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับระดับความสามารถของผู้เรียนและประเภทของแบบฝึกหัด บางคนอาจพบว่าแบบฝึกหัดบางประเภทง่ายหากเนื้อหาตรงกับความรู้พื้นฐานที่มี แต่บางแบบฝึกหัดอาจท้าทายมากขึ้นเมื่อเน้นทักษะที่ยังไม่ชำนาญ เช่น การใช้ไวยากรณ์ที่ซับซ้อนหรือการเขียนเรียงความ ปัจจัยที่ทำให้แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษง่ายหรือยาก: ระดับความรู้ของผู้เรียน ผู้ที่เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษอาจพบว่าแบบฝึกหัดที่เน้นไวยากรณ์หรือคำศัพท์ขั้นพื้นฐานง่ายกว่า ในขณะที่ผู้เรียนระดับสูงจะต้องเผชิญกับแบบฝึกหัดที่ซับซ้อน เช่น การเขียนเชิงวิชาการหรือการใช้สำนวน ประเภทของแบบฝึกหัด แบบฝึกหัดประเภท เติมคำในช่องว่าง หรือ เลือกคำตอบที่ถูกต้อง มักจะง่ายกว่า เพราะมีตัวเลือกให้เลือกและคำตอบที่ชัดเจน แบบฝึกหัด การเขียน หรือ การอ่านเชิงลึก อาจยากขึ้น เพราะต้องใช้ทักษะการคิดวิเคราะห์และการประยุกต์ความรู้ หัวข้อที่กำหนด หากหัวข้อแบบฝึกหัดเกี่ยวข้องกับคำศัพท์หรือเนื้อหาที่ผู้เรียนคุ้นเคย แบบฝึกหัดจะดูง่ายขึ้น แต่ถ้าเนื้อหาใหม่หรือต้องใช้ความรู้เฉพาะ เช่น การใช้คำสรรพนามขั้นสูง หรือโครงสร้างประโยคที่ซับซ้อน ผู้เรียนอาจรู้สึกว่ามันท้าทายมากขึ้น วิธีการทำให้การเรียนภาษาอังกฤษง่ายขึ้น: ฝึกฝนเป็นประจำ เริ่มจากแบบฝึกหัดง่าย ๆ แล้วค่อย ๆ เพิ่มระดับความยาก ใช้เครื่องมือช่วย เช่น ดิกชันนารี หรือแอปพลิเคชันเรียนภาษา ดังนั้น แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษอาจยากหรือไม่ขึ้นอยู่กับพื้นฐานของผู้เรียนและประเภทของแบบฝึกหัด แต่การฝึกฝนอย่างต่อเนื่องจะทำให้พัฒนาทักษะได้อย่างมีประสิทธิภาพ