Skip to content Skip to footer

การทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษแบบมาตรฐาน: TOEIC TOEFL และ IELTS ต่างกันอย่างไร

การทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษแบบมาตรฐาน: TOEIC TOEFL และ IELTS ต่างกันอย่างไร

การทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการวัดทักษะภาษาอังกฤษในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเพื่อการเรียนต่อ การสมัครงาน หรือการย้ายถิ่นฐาน โดยมีการทดสอบที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลสามประเภทหลัก ได้แก่ TOEIC TOEFL และ IELTS ซึ่งแต่ละการทดสอบมีจุดเด่นและการออกแบบที่แตกต่างกัน บทความนี้จะอธิบายความแตกต่างของการทดสอบเหล่านี้อย่างละเอียด เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเลือกการทดสอบที่เหมาะสมกับเป้าหมายของตนเอง

1. TOEIC (Test of English for International Communication)

TOEIC เป็นการทดสอบที่ออกแบบมาเพื่อวัดทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานและการสื่อสารระหว่างประเทศ มักใช้โดยบริษัทและองค์กรเพื่อประเมินความสามารถทางภาษาของพนักงาน หรือผู้ที่สมัครงาน

  • จุดประสงค์หลัก: การทดสอบนี้เน้นการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตการทำงาน เช่น การติดต่อสื่อสารภายในองค์กร การเขียนอีเมล การประชุม เป็นต้น
  • ประเภทของการทดสอบ: TOEIC มีการทดสอบ 2 ส่วนหลัก คือ
    • Listening and Reading (การฟังและการอ่าน): ส่วนใหญ่ใช้ในธุรกิจและการสื่อสารทั่วไป
    • Speaking and Writing (การพูดและการเขียน): เน้นทักษะการพูดและการเขียนเชิงธุรกิจ
  • คะแนน: คะแนน TOEIC มีการให้คะแนนในแต่ละส่วนเต็ม 990 คะแนน
  • ความยาก: การทดสอบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานเป็นหลัก จึงมักจะไม่ซับซ้อนเท่ากับ TOEFL และ IELTS ในบางส่วน

เหมาะกับใคร: TOEIC เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทดสอบภาษาอังกฤษเพื่อใช้ในการสมัครงาน หรือเพื่อเลื่อนตำแหน่งในบริษัทที่มีการสื่อสารภาษาอังกฤษเป็นหลัก

2. TOEFL (Test of English as a Foreign Language)

TOEFL เป็นการทดสอบที่ใช้วัดความสามารถภาษาอังกฤษในการเรียนรู้เชิงวิชาการ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมัครเรียนต่อในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาในต่างประเทศ

  • จุดประสงค์หลัก: TOEFL ออกแบบมาเพื่อวัดทักษะภาษาอังกฤษที่ใช้ในสภาพแวดล้อมทางวิชาการ เช่น การฟังบรรยาย การเขียนเรียงความ หรือการอ่านบทความวิชาการ
  • ประเภทของการทดสอบ: TOEFL มักแบ่งเป็น 4 ส่วนหลัก คือ
    • Reading (การอ่าน): อ่านบทความวิชาการและตอบคำถาม
    • Listening (การฟัง): ฟังการบรรยายและสนทนาภายในห้องเรียน
    • Speaking (การพูด): พูดเกี่ยวกับหัวข้อที่กำหนด โดยต้องใช้ทักษะการแสดงเหตุผลและการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
    • Writing (การเขียน): เขียนบทความเชิงวิชาการและการวิเคราะห์
  • คะแนน: คะแนนเต็ม 120 คะแนน แบ่งออกเป็น 30 คะแนนต่อแต่ละทักษะ
  • ความยาก: เนื้อหามีความซับซ้อนมากกว่าการทดสอบภาษาอังกฤษทั่วไป เน้นทักษะด้านวิชาการ

เหมาะกับใคร: TOEFL เหมาะสำหรับผู้ที่วางแผนจะศึกษาต่อในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เช่น สหรัฐอเมริกาและแคนาดา

3. IELTS (International English Language Testing System)

IELTS เป็นการทดสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษที่ใช้ทั้งในด้านการศึกษา การทำงาน และการย้ายถิ่นฐาน จุดเด่นของการทดสอบนี้คือมีการเลือกใช้ภาษาอังกฤษได้ทั้งสำเนียงอเมริกันและสำเนียงอังกฤษ

  • จุดประสงค์หลัก: IELTS เน้นทั้งด้านวิชาการและการสื่อสารทั่วไป มีการทดสอบ 2 ประเภทคือ
    • IELTS Academic: ใช้ในการสมัครเรียนต่อในมหาวิทยาลัยหรือวิชาชีพเฉพาะทาง
    • IELTS General Training: ใช้ในการย้ายถิ่นฐานหรือสมัครงานในต่างประเทศ
  • ประเภทของการทดสอบ: แบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลัก ได้แก่
    • Listening (การฟัง): ฟังการสนทนาและการบรรยายจากหลากหลายหัวข้อ
    • Reading (การอ่าน): อ่านบทความจากหนังสือพิมพ์, นิตยสาร และบทความวิชาการ
    • Speaking (การพูด): การสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวกับผู้ทดสอบ
    • Writing (การเขียน): เขียนบทความและการวิเคราะห์
  • คะแนน: คะแนนเต็ม 9.0 แบ่งเป็น 0.5 คะแนนต่อระดับ
  • ความยาก: IELTS มีการทดสอบการพูดแบบตัวต่อตัว ซึ่งเป็นความท้าทายสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการสนทนาภาษาอังกฤษ

เหมาะกับใคร: IELTS เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนต่อในประเทศที่ใช้ระบบการศึกษาภาษาอังกฤษ เช่น อังกฤษ ออสเตรเลีย หรือผู้ที่ต้องการย้ายถิ่นฐานไปทำงานในต่างประเทศ

สรุปความแตกต่างระหว่าง TOEIC, TOEFL, และ IELTS

คุณสมบัติTOEICTOEFLIELTS
จุดประสงค์เพื่อการทำงานเพื่อการศึกษาเพื่อการทำงาน, การศึกษา, และการย้ายถิ่นฐาน
การวัดทักษะการฟัง, การอ่าน, การพูด, การเขียนการฟัง, การอ่าน, การพูด, การเขียนการฟัง, การอ่าน, การพูด, การเขียน
คะแนนเต็ม9901209.0
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ภาษาในการทำงานผู้ที่ต้องการเรียนต่อในต่างประเทศผู้ที่ต้องการเรียนต่อ ย้ายถิ่นฐาน หรือทำงานในต่างประเทศ

บทสรุป:
การเลือกทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณ หากต้องการใช้ภาษาอังกฤษในการทำงาน TOEIC จะเป็นตัวเลือกที่ดี แต่หากคุณกำลังเตรียมตัวสำหรับการเรียนต่อในต่างประเทศ TOEFL และ IELTS จะเหมาะสมมากกว่า

0