Skip to content Skip to footer

การตั้งเป้าหมายการเรียนรู้ภาษาอังกฤษระยะสั้นและระยะยาว

การตั้งเป้าหมายในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาทักษะด้านภาษา การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและเป็นไปได้จะช่วยให้คุณมองเห็นความก้าวหน้าและคงแรงจูงใจในการเรียนรู้ ต่อไปนี้คือแนวทางในการตั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว:

เป้าหมายระยะสั้น (Short-term Goals)

เป้าหมายระยะสั้นคือเป้าหมายที่สามารถบรรลุได้ภายในไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์ เป้าหมายเหล่านี้ช่วยให้คุณมีแรงจูงใจและก้าวหน้าทีละขั้น แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ

ตัวอย่างเป้าหมายระยะสั้น:

  1. เรียนรู้คำศัพท์ใหม่วันละ 5 คำ

    • กำหนดให้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ทุกวัน คำศัพท์เหล่านี้อาจเป็นคำที่คุณใช้บ่อยในชีวิตประจำวันหรือคำที่เกี่ยวข้องกับงานหรือความสนใจของคุณ
  2. ฟังพอดแคสต์ภาษาอังกฤษวันละ 10 นาที

    • ฟังเนื้อหาที่เกี่ยวกับหัวข้อที่คุณสนใจในภาษาอังกฤษ เช่น ข่าว การเดินทาง หรือวิทยาศาสตร์ เพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการเข้าใจภาษา
  3. เขียนบันทึกประจำวันเป็นภาษาอังกฤษทุกวัน

    • ฝึกทักษะการเขียนโดยเขียนบันทึกประจำวันอย่างน้อย 5-10 ประโยคเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
  4. ฝึกสนทนากับเพื่อนเป็นภาษาอังกฤษสัปดาห์ละครั้ง

    • จัดเวลาพูดคุยกับเพื่อนหรือครูผู้สอนเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อพัฒนาทักษะการพูดและการฟัง
  5. ดูภาพยนตร์ภาษาอังกฤษโดยใช้ซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษ

    • เลือกดูภาพยนตร์หรือรายการทีวีที่คุณชอบ แล้วใช้ซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษเพื่อฝึกการฟังและการอ่าน

เป้าหมายระยะยาว (Long-term Goals)

เป้าหมายระยะยาวคือเป้าหมายที่ต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือปีในการบรรลุ การตั้งเป้าหมายระยะยาวช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมและแนวทางในการเรียนรู้ตลอดระยะเวลานาน

ตัวอย่างเป้าหมายระยะยาว:

  1. อ่านหนังสือภาษาอังกฤษให้จบเล่มภายใน 3 เดือน

    • เลือกหนังสือที่คุณสนใจและท้าทายความสามารถด้านภาษาอังกฤษ ตั้งเป้าให้อ่านวันละ 2-3 หน้า และจดบันทึกคำศัพท์ใหม่
  2. เข้าร่วมการทดสอบ TOEFL หรือ IELTS ภายใน 6 เดือน

    • ถ้าคุณตั้งใจที่จะพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในเชิงวิชาการหรือเพื่อสมัครงาน การเตรียมตัวสำหรับการสอบ TOEFL หรือ IELTS เป็นเป้าหมายระยะยาวที่ชัดเจนและมีประโยชน์
  3. พัฒนาทักษะการเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ

    • ฝึกเขียนเรียงความสัปดาห์ละครั้ง หัวข้อละ 250 คำ เพื่อพัฒนาความสามารถในการแสดงความคิดเป็นภาษาอังกฤษอย่างชัดเจน
  4. สามารถสนทนาภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วภายใน 1 ปี

    • ตั้งเป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะการพูดและการฟังในระดับที่สามารถพูดคุยในหัวข้อทั่วไปได้อย่างคล่องแคล่ว ใช้กิจกรรมต่าง ๆ เช่น การสนทนากับเจ้าของภาษา การเข้าคลาสเรียนออนไลน์ หรือการเข้าร่วมชุมชนที่ใช้ภาษาอังกฤษ
  5. ดูภาพยนตร์ภาษาอังกฤษโดยไม่ใช้ซับไตเติ้ล

    • ฝึกฝนการฟังจนสามารถเข้าใจบทสนทนาในภาพยนตร์โดยไม่ต้องใช้ซับไตเติ้ล ซึ่งอาจใช้เวลา 6 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับความสามารถและความทุ่มเท

เคล็ดลับในการตั้งเป้าหมายการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ:

  1. ใช้หลัก SMART

    • Specific (เฉพาะเจาะจง): กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น “เรียนรู้คำศัพท์ใหม่วันละ 5 คำ”
    • Measurable (วัดผลได้): เลือกเป้าหมายที่สามารถวัดผลความก้าวหน้าได้ เช่น “เขียนบันทึก 10 ประโยคทุกวัน”
    • Achievable (เป็นไปได้): เลือกเป้าหมายที่เหมาะสมกับระดับทักษะปัจจุบันของคุณ
    • Relevant (เกี่ยวข้อง): ตั้งเป้าหมายที่สอดคล้องกับเหตุผลที่คุณเรียนภาษาอังกฤษ เช่น เพื่อการทำงาน การเรียน หรือการสื่อสาร
    • Time-bound (กำหนดระยะเวลา): กำหนดเวลาในการบรรลุเป้าหมาย เช่น “ภายใน 3 เดือน”
  2. แบ่งเป้าหมายใหญ่เป็นเป้าหมายย่อย

    • เป้าหมายระยะยาวควรแบ่งออกเป็นเป้าหมายระยะสั้น เพื่อให้คุณสามารถบรรลุทีละขั้น เช่น การเตรียมตัวสอบภาษาอังกฤษอาจแบ่งเป็นการฝึกทักษะฟัง พูด อ่าน และเขียนทีละส่วน
  3. ติดตามความก้าวหน้า

    • ใช้บันทึกหรือแอปพลิเคชันในการติดตามความก้าวหน้าของการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ และปรับเปลี่ยนเป้าหมายให้เหมาะสมกับสถานการณ์
  4. หมั่นฝึกฝนและปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ

    • ความสำเร็จมาจากการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง กำหนดเวลาในแต่ละวันหรือสัปดาห์ในการฝึกทักษะด้านต่าง ๆ

การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและมีการวางแผนที่ดีจะช่วยให้คุณก้าวหน้าในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

Leave a comment

0